ม่ว่าคุณจะใช้ผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้า กุญแจสำคัญก็คือการใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะถ้าใส่ผงซักฟอกเยอะเกินไป ก็มักจะทำให้เกิดปัญหาคราบตกค้างบนเสื้อผ้า หรืออุดตันในเครื่องซักผ้าทำให้เครื่องทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อใส่น้อยเกินไปก็ทำให้สิ่งสกปรก คราบต่าง ๆ ไม่ถูกกำจัดอย่างหมดจด ส่งผลให้เสื้อผ้าไม่สะอาด
ในเมื่อ “มากไปก็ไม่ควร น้อยไปก็ไม่ดี” แล้วเราควรใช้ผงซักฟอกมากแค่ไหน ในการซักผ้าแต่ละครั้ง?
วันนี้เราขอมาไขข้อข้องใจในคำถามนี้ให้ชัดกันไปเลย เพื่อให้คุณได้มีความสุขกับผ้าที่สะอาดทุกครั้งหลังซัก
เช็กดูก่อน ว่าคุณใช้ผงซักฟอกมากไปหรือเปล่า ?
มาดูสัญญาณที่กำลังบอกว่าคุณอาจใช้ผงซักฟอกมากเกินไป จนอาจจะก่อให้เกิดปัญหากับเสื้อผ้า ไปจนถึงสร้างความเสียหายต่อเครื่องซักผ้ากันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง
5 สัญญาณ บ่งบอกว่าคุณใส่ผงซักฟอกมากเกินไป:
- ฟองในเครื่องซักผ้ามากเกินไป: หากคุณสังเกตเห็นฟองในปริมาณมากผิดปกติระหว่างการซัก นี่อาจเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าคุณใช้ผงซักฟอกมากเกินไป
- มีคราบตกค้างบนเสื้อผ้า: เสื้อผ้าที่มีสัมผัสแข็งกระด้าง มีสัมผัสเหนียวเหนอะ หรือมีคราบตกค้างที่เห็ดชัดหลังจากซัก ก็เป็นตัวบ่งบอกว่ากำลังใช้ผงซักฟอกมากเกินไปเช่นกัน
- มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ในเครื่องซักผ้า: นั่นเพราะผงซักฟอกได้ไปสะสมอยู่ในถังซัก ซึ่งก่อให้เกิดเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา
- รอบล้างที่นานขึ้น: จากการใช้ผงซักฟอกมากเกินไป ก็ทำให้รอบล้างจะต้องใช้เวลานานขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
- เครื่องรั่วหรือทำงานผิดปกติ: การใส่ผงซักฟอกมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดการรั่ว หรือเครื่องทำงานผิดปกติได้ เพราะเครื่องต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขจัดฟองส่วนเกิน
ผลที่ตามมาจากการใส่ผงซักฟอกมากเกินไป:
- การอุดตันและการสะสม: เพราะผงซักฟอกสามารถสะสมในระบบระบายน้ำของเครื่องซักผ้า ทำให้เกิดการอุดตันและลดประสิทธิภาพของเครื่อง
- ประสิทธิภาพการทำความสะอาดลดลง: การใช้ผงซักฟอกมากเกินไปอาจทำให้เสื้อผ้าไม่สะอาดเท่าที่ควรเนื่องจากตัวผงซักฟอกส่วนเกินที่ติดมากับเสื้อผ้า จะกักเก็บสิ่งสกปรกในเนื้อผ้า
- เนื้อผ้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น: เนื่องจากถูกฤทธิ์ของผงซักฟอกกัดกร่อนให้เส้นใยผ้าเสื่อมลง
ก็เลยเป็นเหตุผลที่คุณจำเป็นต้องใช้ผงซักฟอกในปริมาณที่เหมาะสม เพราะจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดกับเสื้อผ้าเอง หรือเครื่องซักผ้าของคุณ
ควรใช้ผงซักฟอกประเภทใดสำหรับเครื่องซักผ้า?
ในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์ซักผ้าอยู่หลากหลายชนิด ทั้งแบบน้ำ แบบผง แบบเจลบอล หรือแบบ HE (High Efficiency) ซึ่งก็จำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมกับเครื่องซักผ้าด้วยเช่นกัน เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่เหมาะกับเครื่องซักผ้าแต่ละประเภท:
ประเภทเครื่องซักผ้า |
ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่แนะนำ |
เหตุผล |
เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า |
ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ประสิทธิภาพสูง (HE) |
เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าใช้น้ำน้อยกว่าและควรใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่เกิดฟองน้อยเพื่อป้องกันการสะสมของคราบ |
เครื่องซักผ้าแบบฝาบน |
ผลิตภัณฑ์ซักผ้า แบบน้ำหรือแบบผงทั่วไป |
เครื่องซักผ้าแบบฝาบนใช้น้ำมากกว่าและสามารถรองรับผลิตภัณฑ์ซักผ้าทั่วไปได้ ถึงแม้ว่าจะมีการแนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าประสิทธิภาพสูง (HE) สำหรับรุ่นใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นก็ตาม |
เครื่องซักผ้าประสิทธิภาพสูง (HE) |
ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ประสิทธิภาพสูง (HE) เท่านั้น |
เครื่องซักผ้าประสิทธิภาพสูงใช้น้ำและพลังงานน้อยกว่า จึงจำเป็นต้องใช้น้ำยาซักผ้าประสิทธิภาพสูงเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงฟองที่มากเกินไป การล้างที่ไม่เหมาะสม และความเสียหายต่อเครื่อง |
เพื่อความมั่นใจ อย่าลืมตรวจสอบจากคู่มือเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่สามารถใช้ได้กับเครื่องซักผ้าของคุณ
เทียบความแตกต่าง ผลิตภัณฑ์ซักผ้าแบบน้ำ vs แบบผง vs แบบเจลบอล
ในส่วนของรูปแบบผลิตภัณฑ์ซักผ้านั้น คุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการใช้งาน:
- แบบน้ำ: ละลายน้ำได้ง่ายทั้งในน้ำร้อนและน้ำเย็น เหมาะกับการช่วยขจัดคราบก่อนซัก การซักทั่วไป แต่นิยมใช้กับผ้าสีเข้มเพื่อหลีกเลี่ยงคราบตกค้าง
- แบบผง: เหมาะกับการใช้ขจัดคราบหนัก เช่นดินหรือโคลน สามารถทำงานได้ดีในน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน แต่ละลายได้ไม่ดีในน้ำเย็นและอาจทำให้เกิดคราบตกค้างบนเสื้อผ้าได้
- แบบแคปซูล: สะดวก ใช้งานง่าย ควบคุมปริมาณการใช้ได้ ใช้ได้ทั้งในเครื่องซักผ้าทั้งแบบฝาบนและฝาหน้า แต่อาจละลายได้ไม่ดีในน้ำเย็น และมีราคาสูงกว่าแบบอื่น
แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหนดี สามารถดูข้อมูลเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ซักผ้าแบบต่าง ๆ ได้จากบทความของเรา
ควรใส่ผงซักฟอกกี่ช้อน?
มาถึงเรื่องของปริมาณผงซักฟอกที่เหมาะสม ที่เราควรใช้ เพื่อให้ผ้าสะอาดและเครื่องซักผ้าไม่เสียหายกันแล้ว ซึ่งการจะใช้ผงซักฟอกมากแค่ไหนให้เหมาะสมก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างดังนี้
ตามปริมาณการซัก
ปริมาณการซักก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ส่งผลต่อการใช้ปริมาณผงซักฟอก ซึ่งโดยเบื้องต้นแล้วสามารถกะปริมาณได้ตามนี้:
ปริมาณการซัก |
ปริมาณผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ใช้ |
ปริมาณผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ใช้ (แบบผง) |
ซักน้อย |
1 ช้อนโต๊ะ (หรือตามที่แบรนด์ระบุ) |
1/4 ฝา |
ซักปานกลาง |
2 ช้อนโต๊ะ |
1/3 ฝา |
ซักมาก |
3 ช้อนโต๊ะ |
1/2 ฝา |
ซักมากพิเศษ |
4 ช้อนโต๊ะ |
3/4 ฝา |
แต่คำถามที่ตามมาคือ แล้ว “น้ำยาซักผ้า 1 ฝา เท่ากับกี่มล. ” น้ำยาซักผ้ามาตรฐานส่วนใหญ่ จะมีฝาที่มีขนาดบรรจุประมาณ 30 มิลลิลิตร แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรตรวจสอบฝาขวดน้ำยาซักผ้าแบรนด์ที่คุณใช้ และคำแนะนำการใช้งานด้วยว่ามีปริมาณแนะนำที่ควรใช้เท่าไหร่ต่อการซัก 1 ครั้ง
ตามค่าความกระด้างของน้ำ
วิธีใช้ผงซักฟอกให้เหมาะสมนั้น ความกระด้างของน้ำ ก็ส่งผลต่อปริมาณผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ใช้เช่นกัน น้ำกระด้างคือน้ำที่มีแร่ธาตุมากกว่าปกติ เช่น แคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งอาจรบกวนประสิทธิภาพของน้ำยาซักผ้า คุณอาจต้องเพิ่มผลิตภัณฑ์ซักผ้าเพื่อให้เสื้อผ้าสะอาด ในทางกลับกัน น้ำอ่อนก็ทำให้ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าน้อยกว่าเนื่องจากไม่มีแร่ธาตุมารบกวนมากนัก
วิธีตรวจสอบความกระด้างของน้ำ
- ใช้ชุดทดสอบความกระด้างของน้ำ: หาซื้อชุดทดสอบค่าความกระด้างของน้ำได้จากร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้าน หรือออนไลน์ ชุดทดสอบนี้จะมาพร้อมแผ่นทดสอบให้คุณจุ่มลงในน้ำ โดยแผ่นจะเปลี่ยนสีและแสดงค่าตามปริมาณแร่ธาตุ:
- น้ำอ่อน: 0-60 มก./ล. ของแคลเซียมคาร์บอเนต
- น้ำปานกลาง: 61-120 มก./ล.
- น้ำกระด้าง: 121-180 มก./ล.
- น้ำกระด้างมาก: >180 มก./ล.
- สอบถามจากผู้ให้บริการน้ำประปา : โดยปกติแล้วผู้ให้บริการน้ำประปา หรือผู้จัดหาน้ำท้องถิ่นมักจะมีรายงานเกี่ยวกับคุณภาพน้ำที่รวมถึงข้อมูลความกระด้างของน้ำอยู่ด้วย
- ตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน: ซึ่งอาจมีในบางพื้นที่หรือบางประเทศ ที่จะให้เราสามารถป้อนตำแหน่งที่ตั้งและดูข้อมูลรายละเอียดคุณภาพน้ำได้
ตามความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ซักผ้า
ผลิตภัณฑ์ซักผ้าในปัจจุบัน มักจะมีสูตรเข้มข้น ทื่ให้ประสิทธิภาพที่ดีในปริมาณการใช้ที่น้อยลง นั่นก็หมายความว่าคุณต้องใช้น้อยลงหรือตามปริมาณเหมาะสมที่แบรนด์นั้น ๆ แนะนำด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้เปลืองผลิตภัณฑ์เกินจำเป็น และไม่ก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมา
ตามระดับความสกปรกและคราบ
สำหรับเสื้อผ้าที่มีคราบสกปรกเล็กน้อย ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าในปริมาณที่น้อยลง แต่กับเสื้อผ้าที่มีคราบสกปรกมาก เช่น เสื้อผ้าทำงานหรือชุดกีฬา ก็จำเป็นต้องใช้น้ำยาซักผ้ามากขึ้นเพื่อสลายน้ำมันและคราบสกปรก
ทั้งหมดนี้ก็คือปัจจัยที่คุณสามารถใช้ในการคำนวณปริมาณผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ต้องใช้ เพื่อให้เสื้อผ้าสะอาดหมดจด และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดปัญหากับเครื่องซักผ้า
เคล็ดลับการซักผ้าเพิ่มเติม:
แก้ปัญหาเรื่องปริมาณผงซักฟอก และทำให้การซักผ้าของคุณ “ง่าย” ขึ้น
บอกลาปัญหา “ใช้ผงซักฟอกมาก / น้อย เกินไป” ด้วยเครื่องซักผ้า Electrolux ที่มาพร้อมนวัตกรรมที่ช่วยลดความยุ่งยากลง เช่น IntelliDose ที่ช่วยควบคุมปริมาณการใช้น้ำยาซักผ้าในปริมาณที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ช่วยให้มั่นใจได้ว่า เสื้อผ้าของคุณจะได้รับการทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำยาซักผ้าโดยไม่จำเป็น
ประหยัดทั้งเงิน ทั้งเวลา และลดปัญหากวนใจที่เคยมี ด้วยเทคโนโลยีการดูแลผ้าจาก Electrolux
คำถามที่พบบ่อย เรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าในเครื่องซักผ้า
-
เครื่องซักผ้าขนาด 7 กก. ใส่ผงซักฟอกกี่ช้อน?
ช้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ หรือ 1 / 3 ฝาสำหรับแบบน้ำ
-
ทำไมไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้ามากเกินไป?
เพราะจะทำให้เกิดคราบตกค้าง กลิ่นไม่พึงประสงค์บนเสื้อผ้า และเสี่ยงทำให้เครื่องซักผ้าอุดตัน ทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือชำรุดได้
-
เครื่องซักผ้าฝาหน้า ใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าแบบไหนดี?
หรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า ควรใช้น้ำยาซักผ้าประสิทธิภาพสูง (HE) เพื่อไม่ให้เกิดฟองมากเกินไป
-
ควรใช้น้ำยาซักผ้าเท่าไหร่ต่ออการซักหนึ่งครั้ง?
โดยทั่วไป ใช้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ หรือ 1 / 3 ฝา แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามปริมาณการซักและปัจจัยอื่นๆ