ในตู้เสื้อผ้าของคุณมีเสื้อผ้าที่ถูกเก็บไว้จนฝุ่นเกาะ ดูเก่าหมอง สีซีดจาง หรือยืดย้วย ทั้งๆ ที่ไม่กี่เดือนก่อนนี้ยังดูใหม่อยู่ใช่ไหมล่ะ? คุณเชื่อหรือไม่ว่า 90% ของเสื้อผ้าถูกทิ้งไปก่อนเวลาอันควร แล้วอะไรกันคือสาเหตุสำคัญ ใช่การซักผ้าหรือไม่?
การดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างไร
- เสื้อผ้าที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจะไม่ยืดย้วย ใช้งานได้ยาวนานกว่า
- การดูแลเสื้อผ้าที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดีต่อสุขภาพ เสื้อผ้าที่สกปรกจะมีเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียที่อาจทำให้ร่างกายเกิดการติดเชื้อได้
- เสื้อผ้าที่สะอาดเรียบร้อยช่วยให้คุณดูดียิ่งขึ้น
- เมื่อคุณใช้น้ำ พลังงาน และผงซักฟอกมาเกินไปในการดูแลเสื้อผ้า นอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองแล้วยังทำลายสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนเสื้อผ้าแบบ Fast fashion (เสื้อผ้าแฟชั่นที่ถูกทิ้งอย่างรวดเร็ว) ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในการดูแลเสื้อผ้า คุณจะช่วยทั้งปกป้องเสื้อผ้าและโลกใบนี้ให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น
และนี่คือเทคนิคการดูแลเสื้อผ้าอย่างเหมาะสม :
1. อ่านฉลากสัญลักษณ์ในการดูแลเสื้อผ้าโดยละเอียด
เนื้อผ้าที่แตกต่างกันต้องใช้อุณหภูมิน้ำในการซักผ้าที่ต่างกัน เพื่อคงสีสัน เพิ่มความสะอาด ขจัดคราบเปื้อน โดยทั่วไปแล้วการใช้น้ำร้อนจะช่วยขจัดแบคทีเรีย และน้ำเย็นจะช่วยทำความสะอาดผ้าได้อย่างนุ่มนวล คงสีสันที่สดใส
อ่านฉลากสัญลักษณ์ในการดูแลเสื้อผ้าที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าแต่ละตัว เพื่อทราบถึงข้อมูลการดูแล เช่น เหมาะกับน้ำอุณหภูมิใด และรอบการซักแบบไหน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สำคัญอย่างยิ่งในการช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้า
อ่านเพิ่มเติม : วิธีการซักเสื้อแจ็คเก็ตด้วยเครื่องซักผ้า : คำแนะนำแต่ละขั้นตอน
2. แยกประเภทเสื้อผ้าที่จะซัก
เมื่ออ่านฉลากดูแลเสื้อผ้าแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการแยกเสื้อผ้าออกตาม สี น้ำหนักผ้า อุณหภูมิในการซัก เพื่อให้การซักผ้าแต่ละครั้งขจัดคราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ คงสีสันสดใส และถนอมผ้าชิ้นบอบบางได้ดี หากซักผ้าประเภทคล้ายกันในรอบการซักเดียวกัน
ในขั้นต้นคุณสามารถแยก ผ้าขาว ผ้าสีเข้ม ผ้าสีอ่อน และผ้าสำหรับซักแห้ง เพื่อซักแยกจากกัน
3. ทำความสะอาดเฉพาะจุด
ไม่ปล่อยให้คราบสกปรกฝังแน่น ยิ่งคราบเลอะนานยิ่งเอาออกยาก ควรรีบขจัดออกให้เร็วที่สุดด้วยสารขจัดคราบจากธรรมชาติ เพียงใช้น้ำส้มสายชูพร้อมเบคกิ้งโซดาทาบริเวณรอยเปื้อนและล้างออกด้วยน้ำเย็น
หรือจะใช้ปากกาลบคราบเปื้อนก็ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ขจัดคราบไวน์แดง หรือคราบอาหารได้อย่างทันท่วงที
4. เสื้อผ้าบางชนิด ไม่ต้องซักบ่อย
เสื้อผ้าบางชนิดสามารถสวมใส่ซ้ำได้ โดยไม่จำเป็นต้องซักในทุกครั้ง อาทิ กางเกงยีนส์ เสื้อกันหนาว เสื้อโค้ท สามารถใส่ซ้ำได้หลายครั้ง เพราะยิ่งซักบ่อยเสื้อผ้าพวกนี้จะยิ่งเก่าหมองเร็วยิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณสวมใส่ขณะมีเหงื่อ หรือออกไปอยู่นอกบ้านหรือกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ ก็ควรซักหลังจากสวมใส่
5. ไม่ใส่เสื้อผ้าปริมาณมากเกินไป ในแต่ละรอบการซัก
หากใส่เสื้อผ้าลงในเครื่องน้อยเกินไปในแต่ละรอบการซักก็จะสิ้นเปลืองน้ำ แต่ใส่มากเกินไปก็ทำให้เสื้อผ้าไม่สะอาดหมดจดเช่นกัน และเสื้อผ้าแต่ละตัวจะยังเสียดสีกันเองทำให้เกิดความเสียหายได้ ผงซักฟอกก็จะติดเป็นคราบ ล้างออกได้ไม่สะอาดอีกด้วย
6. ใช้โปรแกรมการซักที่เหมาะสม
ระดับน้ำและระยะเวลาในการซักที่ไม่เหมาะสม ส่งผลต่อความเก่าหมองของเสื้อผ้า ทั้งยังสิ้นเปลืองพลังงาน - เปลืองเงิน เสื้อผ้าเสียหาย และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยี AutoSense ของเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ UltimateCare 300 สามารถปรับระยะเวลาและระดับน้ำให้เหมาะสมกับปริมาณเสื้อผ้า
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้งานเครื่องซักผ้า:
- ข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
- การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวเอง ของเครื่องซักผ้าฝาหน้าอีเลคโทรลักซ์
7. ไม่ใช้ผงซักฟอกในปริมาณมากเกินไป
การใช้ผงซักฟอกในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้เกิดฟองที่มากเกินไป ซึ่งฟองที่มากเกินไปจะทำให้ขจัดความสกปรกออกจากเสื้อผ้าไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ เสื้อผ้าจึงไม่สะอาดหรืออาจจะเกิดคราบมากกว่าเดิมในบางครั้ง
8. ดูแลขั้นตอนการรีดผ้า
เสื้อผ้าหลายประเภทจำเป็นต้องรีดก่อนสวมใส่ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ใช้ในการทำงาน ที่ต้องดูดีอยู่เสมอ ซึ่งการรีดผ้านั้นก็มีขั้นตอนที่ต้องระวังอยู่เช่นกัน :
ตรวจสอบข้อมูลสัญลักษณ์ในการดูแลเสื้อผ้าว่าเสื้อผ้าชิ้นนั้นสามารถรีดได้หรือไม่ จากนั้นศึกษาวิธีการใช้งานเตารีด หรือเครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำของคุณ และรีดให้สอดคล้องกับอุณหภูมิที่ระบุไว้ในฉลากสัญลักษณ์ ด้วยการตั้งค่าเตารีดให้เหมาะสมตามลำดับและเริ่มรีดตั้งแต่ ปกเสื้อ แขนเสื้อ และจึงรีดต่อไปยังบริเวณที่เหลือ
เลือกซื้อ เตารีด และ เครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำ รุ่นยอดนิยมจากอีเลคโทรลักซ์
9. รู้จักวิธีจัดเก็บเสื้อผ้าอย่างเหมาะสม
เสื้อผ้าต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บที่มีอากาศหมุนเวียน โดยเฉพาะเสื้อผ้าเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ลินิน ผ้าไหม และผ้าขนสัตว์ ควรเก็บในพื้นที่เย็น แห้ง และมีอากาศถ่ายเทเพื่อป้องกันเชื้อรา การแขวนเสื้อผ้าจะช่วยรักษารูปทรงและปราศจากรอยยับ แต่ควรเลือกใช้ไว้แขวนเสื้อที่ทำจากไม้หรือมีผ้าหุ้ม เสื้อผ้าที่มีน้ำหนักมากเช่นเสื้อกันหนาว ควรพักเพื่อป้องกันการยืดย้วย
10. เก็บรักษาเสื้อผ้าให้แห้งสนิท
เชื้อราจะเติบโตได้ดีในสภาพอากาศชื้น จึงควรเปิดประตูเสื้อผ้าของคุณทิ้งไว้ในบางครั้งเพื่อให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเท และหลังจากการซักผ้าทุกครั้ง ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าเสื้อผ้าแห้งสนิทก่อนนำไปเก็บเข้าตู้เสื้อผ้า หรือ เลือกซื้อ เครื่องอบผ้าอีเลคโทรลักซ์
อ่านต่อ : ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อเครื่องอบผ้า
เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ รุ่น Ultimate Care 300 ดูแลเสื้อผ้าของคุณอย่างทะนุถนอมและแม่นยำ ด้วยค่าอุณหภูมิในการซักที่หลากหลาย เหมาะสมกับเนื้อผ้าทุกชนิด เพียงเลือกโปรแกรมการซักที่เหมาะสมจาก 6 โปรแกรม ที่จะปรับอุณหภูมิและระยะเวลาการซักให้เหมาะสม เพื่อการดูแลเสื้อผ้าที่เหนือระดับ
การดูแลเสื้อผ้าให้ใช้งานได้ยาวนานเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม ดูแลทั้งเสื้อผ้าและโลกใบนี้ด้วยเครื่องซักผ้า UltimateCare 300 เลือกซื้อ เครื่องซักผ้าและเครื่องซักและอบผ้าอีเลคโทรลักซ์
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
-
- รอบการซักด่วน เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
- ปรับอุณหภูมิการซักให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าแต่ละชนิด
หยุดการผลิต
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
-
- รอบการซักด่วน เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
- ปรับอุณหภูมิการซักให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าแต่ละชนิด
หยุดการผลิต
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
-
- รอบการซักด่วน เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
- ปรับอุณหภูมิการซักให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าแต่ละชนิด
หยุดการผลิต
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
-
- มอเตอร์ EcoInverter ประหยัดพลังงาน 50%*
- รอบการซักด่วน เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
หยุดการผลิต
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
-
- มอเตอร์ EcoInverter ประหยัดพลังงาน 50%*
- รอบการซักด่วน เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
- SensorWash พร้อม AI ขจัด 49 คราบให้หมดจด
-
- UltraMix หมดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนเนื้อผ้า*
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
หยุดการผลิต